http://thaicursor.blogspot.com  getcode

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การสร้างภาพต่างๆจากPhotoshopCs5


ภาพสีน้ำ

ขั้นตอนการทำภาพให้เป็นเหมือนสีน้ำ

1.เลือกรูปมาเป็นอันดับแรก

2.จากนั้นไปที่ Filter+Artistic+Watercolor

3.ปรับระดับตามความต้องการให้ออกมาดูดี



ภาพรุ้งกินน้ำ

ขั้นตอนการใส่รุ้งกินนำในภาพที่ต้องการ

1.เลือกภาพ

2.สร้าง Layer ขึ้นมา

3.จากนั้นไปที่เครื่องมือ Gradient Tool

4.แล้วไปเลือกสีลูกเล่นที่ Special Effects เลือกสีคล้ายรุ้ง

5.แล้วนำมาลากใส่ Layer ที่สร้างไว้

6.จัดวางตามต้องการปรับOpacity ให้จาง


ภาพสายฟ้า


ขั้นตอนการทำสายฟ้า


1.เลือกรูปที่ต้องการ

2.สร้างหน้ากระดาษให้เป็น International Paper

3.ทำ Background ให้เป็น Layer0

4.เปลี่ยนจาก Nomal เป็น Screen

5.แล้วไปที่เครื่องมือ Gradient Tool เปลี่ยนสีให้เป็น ขาว-ดำ

6.ลากลงใน Papre ให้เป็นขาว-ดำ

7.จากนั้นไปที่ Filter-Render-Difference clouds

8.กด Ctrl+L ปรับ Input Levels ให้เป็น 208-0.40

9.กด Ctrl+I ให้เป็นรูปสายฟ้า ลากไปใส่รูปที่เลือกไว้

10.จากนั้นกด Ctrl+U เพื่อปรับสี คลิกที่ Colorize ปรับตกแต่งสีตามต้องการ



ภาพเบลอ


ขั้นตอนการทำภาพข้างหลังให้เบลอ

1.เลือกรูปที่ต้องการจะทำการเบลอ
2.กด ctrl+J เพื่อเพิ่ม Layer
3.จากนั้นไปที่ Fiter>Blur>Gaussian Blur

4.ปรับระดับความเบลอของรูปที่ต้องการ

5.จะกดที่ Add Vector Mask เพื่อเพิ่ม Layer ซ้อนขึ้นมา

6.แล้วไปที่เครื่องมือ Brush Tool เพื่อจะทำให้ภาพที่เราไม่ต้องการเบลอชัดขึ้น

7.โดยปรับเปลี่ยนสีให้เป็น สีดำ-ขาว

8.จากนั้นก็ทำการ Brush ตรงที่เราไม่ต้องการเบลอ

9.ก็จะได้ภาพเบลอด้านหลังภาพ Save ภาพเป็น JPGE




ภาพโลโม่


ขั้นตอนการทำภาพโลโม้


1.เลือกภาพที่ต้องการ

2.สร้าง Background ขึ้นมาอีกหนึ่ง โดยคลิกขวาที่ Background คลิกที่ Dvplicate

3.เปลี่ยนจาก Nomal เป็น Soft Light

4.สร้าง layer ขึ้นมาเปลี่ยน feather เป็น 30px ไปที่เครื่องมือ Rectargvlar Marquee Tool

5.ลากใส่รูปให้เป็นคล้ายกรอบรูป

6.คลิกขวา Select Inverse ใช้เครื่องมือ Paint Bucket Tool เพื่อเติมสีเลือกเป็นสีดำ-ขาว

7.จากนั้นกด ctrl-j เพื่อ copy layer เปลี่ยน Nomal ให้เป็น Overley ทั้งสอง

8.สร้าง layer ขึ้นมาอีกไปที่เครื่องมือ Gradient tool เป็นสีให้เป็นสีขาวหมด

9.แล้วลากเพื่อทำเป็นคล้ายๆแสงสว่าง แล้วเลื่อน layer นั้นมาใส่ระหว่างกลางของสอง layer ก่อนหน้า




ภาพตัดต่อรูปหน้า

ขั้นตอนการตัดต่อใบหน้า


1.เลือกรูปที่จะตัดต่อ รูปภาพของตนเองที่คล้ายกันกับรูปที่จะนำไปใส่

2.ตัดต่อใบหน้าของตนเองด้วยเครื่องมือ Magnetic Lasso Tool แล้วนำไปใส่ Layer ที่สร้างไว้

3.แต่งภาพให้เนียนใช้เครื่องมือ Eraser Tool ลบส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกจัดแต่งใบหน้าให้เข้ากัน

4. จากนั้นใช้เครื่องมือ Blur Tool ที่คล้ายหยอดน้ำช่วยทำให้รูปดูดีขึ้นทำให้ภาพเนียน

5.ปรับความสว่างโดยไปที่ Adjustments – Brightness/Contrast ให้ดูสว่างขึ้น

6.แล้วปรับสีให้คมชัด ไปที่ Adjustments – Color Balance ปรับให้กลมกลืนกับสีผิว

7.ถ้าต้องการดูดสีของสีผิวไปใส่ใบหน้า หรือสีของใบหน้าให้เหมือนกับสีผิวโดยการใช้เครื่องมือ Color Replacement Tool แล้วกด Alt แช่ไว้แล้วดูดสี

8.จากนั้นก็นำไปใส่ใบหน้าหรือสีผิว

9.ถ้าต้องการทำให้ใบหน้าดูสว่างขึ้น ใช้เครื่องมือ Dodge Tool

10.ต้องการให้ภาพดูคมเข้มขึ้น ใช้เครื่องมือ Burn Tool

11.ปรับตกแต่งให้ดูดีแล้ว Save



ภาพซ้อน

ขั้นตอนการทำภาพซ้อน


1.เลือกรูปที่ต้องการจะทำการซ้อน

2.ลากรูปที่ 2 มาซ้อนที่ Backgroud เดียวกัน

3.จากนั้นไปที่ Layer+Layer Mask+Reveal All

4.แล้วไปที่เครื่องมือ Gradient Tool เลือกสีขาวดำ

5.แล้วลากเพื่อจะให้ภาพได้ซ้อนกันตามต้องการ




ภาพฉีกขาด



วิธีการทำภาพให้ฉีกขาด


1.เลือกภาพที่ต้องการจะฉีก
2.ใช้เครื่องมือ Lasso Tool ตัดฉีกแบ่งครึ่ง
3.สร้าง Untitled ขึ้นมาใหม่แล้วลากภาพที่ตัดไปใส่
4.จากนั้นภาพอีกครึ่งก็ลากตามไปใส่

5.จัดตกแต่งให้เหมือนภาพที่ฉีกขาดแล้ว
6.ก็จะได้ภาพที่ฉีกขาด



ภาพก้อนเมฆ

ขั้นตอนการสร้างภาพก้อนเมฆ

1.เข้า File/New ตั้งกระดาษเปล่า

2.เปลี่ยนสี Color Box สีฟ้า

3.เข้าแถบเครื่องมือการเทสีเลือกGradient Tool Gคลิกแถบเครื่องมือตัวอย่างสีเลือกReset Gradients OK

4.ลากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งตามที่เราต้องการ

5.เปลี่ยน Background ให้เป็น Layer 0

6.สร้าง Layer 1 ขึ้นมา

7.เปลี่ยนสี Color Box เปลี่ยนสีดำ,ขาว

8.เข้า Filter/Render เลือก Clouds

9.เข้า Filter/Render เลือก Difference Clouds

10.กด Ctrl+F

11.กด Ctrl+ L เปลี่ยน ช่องแรก 30,1.00,100 กด OK

12.คลิกขวา Layer 1 เลือก Duplicate Layer กด OK

13.เข้า Filter/Stylize เลือก Extrude ตั้งค่าช่องแรก 2,30 คลิก Level-based กด OK

14.เปลี่ยน Normal เป็น Screen ทั้ง 2 Layer

15.เข้า Filter/Blur เลือก Gaussian Blur ตั้งเป็น 1.9 กด OK

16.เข้าแถบเครื่องมือด้านซ้ายตัวที่ 8 พู่กัน คลิกขวาเลือก Eraser Tool E คลิกแถบเครื่องมือด้านบนช่อง 2 เปลี่ยนเป็น 9 pixel และเปลี่ยน Flow 10% แล้วคลิกตรงขอบก้อนเมฆ

17.เข้า Filter/Blur เลือก Gaussian Blur ตั้งเป็น 7 กด OK

18.แล้วเราก็ลากรูปมาใส่ เปลี่ยน Normal เป็น Screen



ภาพ 3 มิติ


ขั้นตอนการทำภาพ 3 มิติ


1.เลือกรูปที่ต้องการ

2.ตัดภาพของเราที่ต้องการจะนำไปใส่ภาพ

3 มิติ3.จากนั้นสร้างหน้ากระดาษขนาดตามที่ต้องการ

4.แล้วไปเลือกสีที่ต้องการจากนั้นไปที่Filter+Render+Clouds

5.จากนั้นก็ไปที่Filter+Stylize+Extrudeเพื่อปรับภาพ 3มิติ

6.แล้วนำภาพที่ตัดไว้ลากมาใส่



ภาพจิ๊กซอ


ขั้นตอนการทำภาพจิ๊กซอ


1.เลือกภาพที่จะนำมาทำเป็นจิ๊กซอให้เป็นฺ Back ground

2.กด ctrl+J เพื่อเพิ่ม Layer

3.ไปที่ Styles เลือกลูกเล่นที่ Puzzle (Image) เพื่อให้ภาพเป็นจิ๊กซอ

4.จากนั้นไปปรับภาพให้เป็น 50% ไปที่ Opacity

5.แล้วไปดับเบิ้ลคลิกที่ Back ground ที่เราแต่ง

6.มันจะขึ้นเป็น Layer Style

7.ให้ไปคลิกที่ Texture ไปปรับที่ Scale และ Depth ตามความเหมาะสมของรูป

8.ก็จะได้ภาพเป็นจิ๊กซอ Save ภาพเป็น JPGE


ภาพไฮไลท์


ขั้นตอนการทำไฮไลท์สีผม


1.เลือกภาพที่ต้องการจะไฮไลท์สีผม


2.สร้าง Layer ขึ้นมาอีกหนึ่ง


3.จากนั้นใช้เครื่องมือ Polygonal Lasso Tool เพื่อทำการไฮไลท์


4.จัดลากให้เป็นทรงแล้วเติมสีด้วยเครื่องมือ Paint Bucket Tool


5.ไปที่ Filter > Blur > Gaussian Blur แล้วปรับค่า Radus ตามความเหมาะสมสวยงาม


6.เสร็จสมบูรณ์ไฮไลท์สีผม

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การแปลงรูปถ่ายธรามดาให้เป็นรูปวาด

ขั้นตอนที่ 1. เปิดรูปที่เราต้องการขึ้นมา




ขั้นตอนที่ 2. คัดลอกLayer มาอีกLayerหนึ่ง โดยการกด Ctrl+J






ขั้นตอนที่ 3. คลิ๊ก Filter>>Stylize>>Find Edge





ขั้นตอนที่ 4. ปรับค่าตามความเหมาะสม



ขั้นตอนที่ 5. ไปที่ Filter>>Blur>>Gaussian Blur...




ขั้นตอนที่ 6. ปรับค่า Radius ที่ค่า2




จะได้รูปวาดที่สวยงาม









วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Creative Thinking (การคิดเชิงสร้างสรรค์)

ความคิดสร้างสรรค์

การสร้างสรรค์คือ การทำให้เกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา ซึ่งบางสิ่งนั้นไม่เคยทีอยู่มาก่อน ทั้งผลผลิตอันหนึ่ง หรือกระบวนการอันหนึ่งหรือ
ความคิด-ไอเดียอันหนึ่ง

การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่มามาก่อนให้มีขึ้นมา การประดิษฐ์สิ่งซึ่งมีอยู่ใน ณ ที่ไหนที่ใดสักแห่งหนึ่งแต่เราไม่รู้ว่ามีมันอยู่แล้ว การคิดค้นกระบวนการใหม่อันหนึ่งขึ้นมาเพื่อกระทำบางสิ่งบางอย่าง การประยุกต์กระบวนการที่มีอยู่ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วเข้าสู่ความต้องการอีกครั้ง การพัฒนาวิธีการใหม่อันหนึ่งเกี่ยวกับการมองไปยังบางสิ่งบางอย่าง การนำมาซึ่งไอเดียหรือความคิดใหม่ ทำให้มันดำรงอยู่ หรือมีอยู่ขึ้นมาเปลี่ยนแปลงวิธีการมองของใครคนใดคนหนึ่งที่มองบางสิ่งบางอย่างไป
การสร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ถึงขนาดการพัฒนาบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาให้กับโลก แต่มันอาจจะเกี่ยวข้องกับพัฒนาการบางสิ่งบางอย่างให้ใหม่ขึ้นมาเล็กๆน้อยๆเพื่อตัวของเราเอง เมื่อเราเปลี่ยนแปลงตัวของเราเอง โลกก็จะเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกันกับเรา ทั้งการที่โลกได้รับผลกระทบโดยการกระทำที่เป็นการเปลี่ยนแปลงของเรา และในวิถีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เราได้มีประสบการณ์กับโลก

ความคิดสร้างสรรค์ คือ กระบวนการคิดของสมองซึ่งมีความสามารถในการคิดได้หลากหลายและแปลกใหม่จากเดิม โดยสามารถนำไปประยุกต์ทฤษฎี หรือหลักการได้อย่างรอบคอบและมีความถูกต้อง จนนำไปสู่การคิดค้นและสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่แปลกใหม่หรือรูปแบบความคิดใหม่ นอกจากลักษณะการคิดสร้างสรรค์ดังกล่าวนี้แล้ว ยังมีสามารถมองความคิดสร้างสรรค์ในหลาย ซึ่งอาจจะมองในแง่ที่เป็นกระบวนการคิดมากกว่าเนื้อหาการคิด โดยที่สามารถใช้ลักษณะการคิดสร้างสรรค์ในมิติที่กว้างขึ้น เช่นการมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน การเรียน หรือกิจกรรมที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ด้วย อย่างเช่น การทดลองทางวิทยาศาสตร์ หรือการเล่นกีฬาที่ต้องสร้างสรรค์รูปแบบเกมให้หลากหลายไม่ซ้ำแบบเดิม เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู่รู้ทัน เป็นต้น ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นลักษณะการคิดสร้างสรรค์ในเชิงวิชาการ แต่อย่างไรก็ตาม ลักษณะการคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ที่กล่าวนั้นต่างก็อยู่บนพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์ โดยที่บุคคลสามารถเชื่อมโยงนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี
ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการอันหนึ่ง ซึ่งเราใช้เมื่อเรามีไอเดียใหม่ๆ มันเป็นการผสมผสานเของไอเดีย หรือความคิดต่างๆซึ่งไม่เคยผสมรวมตัวกันมาก่อน คือการระดมสมอง(brainstorming) เป็นรูปแบบหนึ่งของความคิดสร้างสรรค์ มันทำงานโดยการรวบรวมไอเดียต่างๆที่กระทำออกมาโดยใครบางคน ผสมรวมกันกับของเราเพื่อสรรค์สร้างไอเดียใหม่อันหนึ่ง
ความคิดสร้างสรรค์มักจะเกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ ความบังเอิญหรือโอกาสที่เกิดขึ้น ทำให้เราคิดถึงบางสิ่งบางอย่างในหนทางที่แตกต่าง และเราได้ค้นพบการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ ความเปลี่ยนแปลงบางอย่างมันเกิดขึ้นมาอย่างช้าๆโดยผ่านการใช้ความคิดสติปัญญาอันบริสุทธิ์และความก้าวหน้าเชิงตรรก การอาศัยความก้าวหน้าโดยความบังเอิญหรือในเชิงตรรก หลายครั้ง ต้องใช้เวลานานมากสำหรับการผลิตเพื่อพัฒนาหรือปรับปรุง

ความคิดสร้างสรรค์จึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์กับการผลิตสินค้า การสร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ กระบวนการที่คิดขึ้นมา และการบริการที่ดีขึ้น คาดหวังกันว่า การสร้างสรรค์นั้นจะช่วยเราในหลายๆด้าน เช่น องค์กรของเราดีขึ้น ลูกค้า หรือคนที่รับบริการจากเรามีความสุขมากขึ้น โดยผ่านการปรับปรุงขึ้นมาใหม่นี้ในด้านคุณภาพและปริมาณที่ผลิตออกมา



การใช้เทคนิควิธีพิเศษ ความคิดสร้างสรรค์อันละเอียดอ่อนประณีตสามารถถูกนำมาใช้ได้เพื่อพัฒนาไอเดียใหม่ๆ เทคนิคดังกล่าวจะช่วยทำให้ หรือไปบังคับให้เกิดลำดับการณ์อันกว้างขวางของการผสมผสานไอเดีย เพื่อจุดประกายความคิดใหม่ๆและกระบวนการใหม่ๆ การระดมสมองเป็นหนึ่งในเทคนิคพิเศษเหล่านี้ แต่ตามขนบประเพณี แล้ว มันจะเริ่มต้นด้วยไอเดียที่ไม่ธรรมดา(start with un-original ideas)

เทคนิคความคิดสร้างสรรค์
ไอเดียใหม่ๆเกิดขึ้นมา เมื่อมีไอเดียตั้งแต่สองไอเดียขึ้นไปบังเอิญหรือตั้งใจให้มันมาผสมกัน อย่างที่มันไม่เคยรวมตัวกันมาก่อน เทคนิคการใช้ความคิดสร้างสรรค์จะเป็นการจัดหาวิธีการเพื่อรวมไอเดียทั้งหลายเข้าด้วยกันอย่างประณีต ซึ่งตามปกติ เราไม่เคยคิดข้ามไอเดียพวกนั้นมาก่อนหรือคิดถึงมันว่าจะเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ความยุ่งยากประการแรกที่เกิดขึ้นมาก็คือ จะหาทางให้ไอเดียนั้นๆผสมกันได้อย่างไร และข้อยุ่งยากประการที่สองคือจะพัฒนาไอเดียใหม่นั้นให้มันใช้การได้ได้อย่างไร

เทคนิคการได้มาซึ่งความคิดสร้างสรรค์

Random Word (การสุ่มคำ)

Random Picture (การสุ่มด้วยภาพ)

False Rules (กฎเกณฑ์ที่ผิดพลาด)

Random Website (การสุ่มเวบไซท์)

Scamper (กระโดดโลดเต้น หรือการเล่น)

Search & Reapply (ค้นหาและลองประยุกต์ใหม่)

Challenge Facts (ท้าทายข้อเท็จจริง)

Escape (หลบหนี หลบเลี่ยง)

Analogy (การอุปมาอุปมัย)

Wishful Thinking (ความคิดให้สมปรารถนา)

Thesaurus (ใช้พจนานุกรมศัพท์คำพ้อง)

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ปากกาแปลภาษา

เครื่องแปลภาษา (Electronic Dictionary) สุดจ็าบ ที่คุณไม่ควรมองข้ามในยุคสังคมภูมิปัญญา
(English-Thai, English-English)
(อังกฤษ-ไทย, อังกฤษ-อังกฤษ)




คุณสมบัติของปากกาแปลภาษา

1. สแกนคำภาษาอังกฤษที่อยู่ในรูปตัวพิมพ์ และแปลทันทีทางหน้าจอ
2. อ่านออกเสียงคำศัพท์หรือประโยคที่ถูกสแกนได้ (Built in Text-to-Speech technology )
3. มีระบบการ input คำศัพท์ที่นอกเหนือจากการสแกนได้เช่นการใช้งาน Opticard และ Text Editor
4. จดจำคำศัพท์ที่สแกนไว้ 80 คำล่าสุด เพื่อง่ายต่อการทบทวน
5. ปรับโหมดการใช้งานได้สำหรับผู้ใช้ที่ถนัดมือขวา หรือถนัดมือซ้าย
6. การรับรู้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ (English OCR) มีความแม่นยำถึง 97%* (*บนพื้นฐานของรูปแบบและขนาดตัวอักษรตามมาตรฐาน)
7. เพิ่ม ! ฟังค์ชั่นการจดบันทึก ใช้เป็นเครื่องสแกนข้อความภาษาอังกฤษเก็บเข้าปากกา จากนั้นถ่ายโอนข้อมูลผ่านสัญญาณอิฟราเรด เข้าอุปกรณ์ที่มีพอร์ตอินฟราเรด เช่น Notebook, PDA




ข้อดี

ปากกาแปลภาษา ใช้ง่าย! แค่จับปากกาและสแกนตรงข้อความภาษาอังกฤษ สแกนปุ๊บแปลเป็นไทยปั๊บ ไม่ต้องเสียเวลาเปิดดิก หรือพิมพ์ข้อความให้ยุ่งยากอีกต่อไปสะดวกสุดๆ

สามารถแปลได้หลายแบบ อังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ, อังกฤษ-อังกฤษ และภาษาอื่นๆ

ประโยชน์หลักๆ

1. เพิ่มความต่อเนื่องในการอ่านบทความภาษาอังกฤษ เช่นจาก นิตยสาร ตำราเรียน หนังสือพิมพ์ นวนิยาย พ็อกเกตบุ๊ค หรือสื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆ
2. ช่วยให้คุณหรือลูกหลานของคุณรักการอ่านภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น
3. ใช้งานควบคู่กับการอ่านหนังสือ ได้สะดวกในทุกอิริยาบถ
4. เหมาะที่จะมีไว้ประจำที่ทำงานหรือที่บ้านสำหรับทุกๆคน





วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เพราะเราคู่กัน<กรรม>











แก้ไขงาน (เพราะเราคู่กรรม)